marijuana - Sawadee Sativa กัญชา ได้รับการปลดล็อกทางกฎหมาย
marijuana กัญชา ได้รับการปลดล็อกทางกฎหมายและได้รับการยอมรับทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย กัญชาได้ถูกปลดล็อกตามพระราชบัญญัติกัญชา-กัญชง ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา สามารถครอบครอง เพาะปลูก และการจัดจำหน่าย รวมไปถึงการบริโภคได้ ซึ่งการปลดล็อกกัญชาสามารถเพิ่มศักยภาพทางการเกษตรและการท่องเที่ยวได้ ปัจจุบันมีประเทศที่ปลดล็อกกัญชาทั้งหมดและปลดล็อกบางส่วนรวม 69 ประเทศ จาก 193 ประเทศทั่วโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 36% ของทั้งหมด และนั่นคือมูลค่าโอกาสของกัญชาไทยในตลาดโลก กัญชาเป็นพืชในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศอบอุ่น เช่น เอเชีย, อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง ในประวัติศาสตร์มี รายงานการใช้ประโยชน์จากกัญชายาวนานกว่าสี่พันปี เช่น ใช้เป็นอาหารคนหรือสัตว์ ใช้เพื่อการผ่อนคลาย และใช้ทำอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เชือก หรือเสื้อผ้า รวมถึงใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ มีกัญชาหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก และมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชา ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันกัญชา weed นานาพันธุ์ ให้เลือก ผ่านการคัดกรองอย่างมีคุณภาพสดจากฟาร์ม วันนี้ทาง Sawadee Sativa จะแนะนำสายพันธุ์กัญชาไทยที่ได้ผ่านการรับรองในไทยให้กับทุกคนได้รู้จัก และรู้ถึงลักษณะของต้นกัญชาแต่ละพันธุ์ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร marijuana กัญชาพันธุ์ไทย ถือเป็น พันธุ์หายากและพบได้มากบริเวณเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร และบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี คาดว่ากัญชาพันธุ์ที่พบในประเทศไทยน่าจะถูกนำมาจากทางจีนตอนใต้ และมีการนำไปแยกปลูกในต่างพื้นที่ทำให้มีความหลากหลายทั้งลักษณะสัณฐานวิทยา และปริมาณสารสำคัญที่ได้ โดยแต่ละพันธุ์มีลักษณะพิเศษ ซึ่งมีสายพันธุ์ดังต่อไปนี้สายพันธุ์กัญชาที่จดทะเบียนรับรองในไทย ได้แก่ | weed
1. พันธุ์ตะนาวศรีก้านขาว
มีลักษณะของช่อดอกจำนวนมาก แน่นเป็นกระจุกบริเวณปลายกิ่ง ลำต้นเป็นทรงพุ่ม มีกลิ่นหอมคล้ายเปลือกส้มผสมตะไคร้2. พันธุ์ตะนาวศรีก้านแดง
มีลักษณะของช่อดอกที่คล้ายกับพันธุ์ตะนาวศรีก้านขาว แต่จะต่างกันคือมีสีแดงที่กิ่ง ก้าน และใบ ไม่มีกลิ่นฉุน มีกลิ่นหอมคล้ายผลไม้สุก3. พันธุ์หางเสือ
มีลักษณะของช่อดอกยาวคล้ายหางเสือตามชื่อ กลิ่นหอมคล้ายเปลือกส้ม และฉุนเล็กน้อย4. พันธุ์หางกระรอก
สายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ไทยสติ๊ก ได้ชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก เพราะมี สาร THC ที่สูงมาก ประมาณ 20% และทั้งหมดนี้ก็คือสายพันธุ์กัญชาในไทยที่จดทะเบียนรับรองเรียบร้อยแล้ว ทุกส่วนของกัญชาเป็นที่รู้กันว่านำมาสกัดเป็นยารักษาโรคได้ ไม่ว่าจะเป็น ลำต้น ใบ เมล็ด อย่างไรก็ตามมีข้อสำคัญที่ต้องคำนึง คือ การใช้งาน ต้องปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้เองโดยพละการ มีผู้ดูแลใกล้ชิด และไม่อยู่ระหว่างขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร ทำงานในที่สูง หากพบอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ให้รีบพบแพทย์- หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ เจ็บหน้าอก เหงื่อแตก ตัวสั่น
- หายใจไม่สะดวก อึดอัด
- เดินเซ พูดไม่ชัด หูแว่ว เห็นภาพหลอน พูดคนเดียว
กลุ่มคนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับการใช้กัญชา ได้แก่
- หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท
- ผู้ที่อยู่ระหว่างรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ป่วยโรคตับ โรคไตขั้นรุนแรง
- มีประวัติแพ้สารสกัดกัญชา