คลินิกเสริมความงาม Oppa skin clinic
คลินิกเสริมความงาม ในปัจจุบันการฉีดนู้นเติมนี่ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติมาก ยุคสมัยเปลี่ยนไปทำให้โบท็อกซ์ได้รับความนิยมอย่างมากและนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติที่สามารถช่วยลดริ้วรอยให้ดูอ่อนเยาว์ ปรับรูปหน้าเรียว และแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ บนร่างกายได้โดยใช้ระยะเวลาไม่นานในการเห็นผล รวมถึงมีความปลอดภัยสูง คลินิกเสริมความงาม โบท็อกซ์ (Botox) เป็นหัตถการอันดับต้นๆที่นำมาใช้ปรับรูปหน้าเรียว ลดริ้วรอย ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในไทย ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ได้คงอยู่ถาวร แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าการฉีดโบท็อกซ์นั้นทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้จริง ชัดเจน และระยะเวลาการเห็นผลค่อนข้างไว จึงทำให้หลายคนหันมาสนใจปรับรูปหน้าโบท็อกซ์ฉีดตรงไหนได้บ้าง และช่วยอะไรบ้าง
โบท็อกซ์สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้หลากหลายบริเวณ ได้แก่- โบท็อกซ์กราม ช่วยให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัวและอ่อนแรงลง ขนาดเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีแก้มตอบและใบหน้าหย่อนคล้อยเยอะ
- โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับ แนวกระดูกกรามคมชัด ใบหน้าได้รูปมากขึ้น และยังสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวได้อีกด้วย เหมาะกับคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหาความหย่อนคล้อยเยอะ
- โบท็อกซ์รักแร้ หรือ ลดเหงื่อ ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกลดลง โดยเฉพาะบริเวณรักแร้เมื่อเหงื่ออกลดลง กลิ่นตัวก็จะลดลงไปด้วย
- โบท็อกซ์ปีกจมูก ช่วยจมูกที่บานจากปีกจมูกกว้างดูแคบลง รูจมูกเล็กลง
- โบท็อกซ์ริ้วรอย ช่วยลดริ้วรอยย่นขณะแสดงสีหน้าบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา รอยย่นจมูก ทำให้ผิวหน้าตึง กระชับ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ใบหน้าเด็กลง และสามารถลดการเกิดริ้วรอยถาวรบนใบหน้าได้
- โบท็อกซ์ลดน่อง ช่วยให้กล้ามเนื้อน่องเรียวเล็กลง พร้อมโชว์เรียวขาสวยได้อย่างมั่นใจ
- โบท็อกซ์รักษาไมเกรน ยับยั้งไม่ให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ชั่วคราว ทำให้คนไข้กลุ่มนี้มีอาการปวดไมเกรนลดลงและไม่รุนแรงเหมือนเดิม
- โบท็อกซ์รักษา Office syndrome ทำให้กล้ามเนื้อหลังไม่หดเกร็ง คลายกล้ามเนื้อลง ผลพลอยได้ในบางคนจะทำให้ปีกที่หลังดูเล็กลง คอดูเรียวขึ้นด้วยค่ะ
- โบท็อกซ์รูขุมขน ช่วยกระชับรูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง และยังลดความมันบนใบหน้าให้น้อยลง
- กราม ประมาณ 4-6 สัปดาห์
- ริ้วรอย ประมาณ 2 สัปดาห์
- ลิฟท์หน้า ประมาณ 2-4 สัปดาห์
เมโสแฟต (Meso fat) คืออะไร
เมโสแฟต Meso fat หรือเรียกว่า Meso Lipolysis คือการฉีดสารสกัดจากถั่วเหลือง วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ลงไปในชั้นไขมันเพื่อสลายไขมันตามจุดต่างๆ ของร่างกายตามที่ต้องการ ซึ่งสารสกัดเหล่านี้จะเข้าไปทำให้ผนังไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนแตกตัวออก สลายเป็นไขมันเหลว หลังจากนั้นร่างกายจะทำหน้าที่ขับไขมันเหล่านี้ออกจากร่างกายด้วยกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติ เนื่องด้วยไขมันสลายตัวจึงทำให้ร่างกายสามารถขับออกได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะถูกขับออกทางปัสสาวะและทางอุจจาระ สรุปคือ Meso fat หรือเรียกเป็นไทยว่า เมโสแฟต เป็นการสลายไขมันเฉพาะจุดนั้นเอง การฉีดเมโสแฟต (Meso fat) เป็นการฉีดเข้าไปสลายไขมันที่ตรงจุดมากที่สุด เพราะเป็นวิธีการใช้สารสกัดเข้าไปเร่งกระบวนการสลายไขมันได้เร็วที่สุด ซึ่งเมื่อเทียบกับหัตถการอื่นๆ เช่นThermage FLX ที่เป็นการใช้พลังงานเข้าไปสลายไขมัน ตัว Thermage FLX อาจจะมีราคาสูงกว่าเมโสแฟต แต่ให้ผลลัพท์ที่ยาวนานกว่า แต่หากใครที่งบไม่เยอะ ก็จะแนะนำเป็นเมโสแฟตฉีดเข้าไป นอกจากนี้สำหรับตัวช่วยหน้าเรียวก็จะมีสารคลายกล้ามเนื้อ ( การฉีดโบ ) ที่ช่วยให้หน้าเรียวเหมือนกัน แต่กระบวนการทำงานต่างกัน เพราะ สารคลายกล้ามเนื้อ ไม่ใช่เป็นการสลายไขมันแต่เป็นการการทำให้กล้ามเนื้อหดเล็กลง ดังนั้นหากใครไขมันเยอะ อาจจะต้องแนะนำให้ฉีดเมโสแฟตดีกว่า ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น Thermage FLX หรือ สารคลายกล้ามเนื้อ ก็สามารถทำควบคู่กับเมโสแฟตได้ เพื่อให้ผลลัพท์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ลดแฟตที่เหนียง ช่วยให้หน้าเรียว หน้าเป๊ะปังกว่าเดิมการฉีดเมโสแฟตเหนียง และแก้มเหมาะกับใคร
การฉีดเมโสแฟต ควรทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และควรได้รับการประเมินจากแพทย์ก่อนว่าบริเวณที่จะฉีดควรใช้หัตถการเมโสแฟตหรือไม่คนที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต
-ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ ให้ไขมันที่ใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง ลดลงอย่างชัดเจนและรวดเร็ว ภายใน 5-7 วัน -ผู้ที่ต้องการฉีดเมโสแฟต ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัย ซึ่งช่วยให้ไขมันแตกตัว ผ่านกระบวนการเผาผลาญ และขับออกทางปัสสาวะ -ผู้ที่ไม่มีเวลาทำต่อเนื่อง สามารถฉีดเพียงแค่ 3-4 ครั้ง ก็เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนคนที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต
-หญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร -ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเมโสแฟต -ผู้ป่วยที่มีการรับประทานยาเป็นจำนวนมากเช่น เบาหวาน มะเร็ง ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดการเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
-ควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่รับบริการที่ไว้ใจได้ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเพื่อความปลอดภัย และการประเมินเพื่อให้ผลลัพท์ดีที่สุดในการฉีดเมโสแฟต -พักผ่อนให้เพียงพอ และแจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยาให้แพทย์หรือคลินิกที่จะไปฉีด และงดยาในกลุ่มแอสไพริน -ควรศึกษาเกี่ยวกับเมโสแฟตให้ละเอียด รวมถึงการปฎิบัติหลังฉีดเมโสแฟตการดูแลตนเองหลังฉีดเมโสแฟต
หลังการฉีดเมโสแฟตอาจจะมีร่องรอยของเข็มบ้างแต่ก็จะหายไปเอง รวมถึงหลังฉีดอาจจะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดประมาณ 1-5 ชั่วโมงหลังจากนั้นก็จะยุบ และหลังจากฉีดควรดูแลตัวเองตามวิธีต่อไปนี้- หลังจากฉีดเมโสแฟต ไม่ควรกด หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจเกิดอาการอักเสบจากบริเวณที่ฉีดได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะไขมันจะสลายและถูกขับออกมาทางปัสสาวะ
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดของทอด ของมัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสร้างไขมันใหม่ และหมั่นออกกำลังกายเพื่อความกระชับ
- ห้ามขัดหน้า นวดหน้า เลเซอร์หรือว่ายน้ำ ประมาณ 1 อาทิตย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ สูบบุหรี่ ประมาณ 3 วันหลังจากฉีด และพักผ่อนให้เพียงพอ